วิธีร้องเพลงเพราะ แบบนักร้องมืออาชีพ ต้องฝึกอย่างไร?​

1. บริหารการหายใจให้ดี

การหายใจก็เหมือนกับเป็นหัวใจสำคัญของการร้องเพลง เพราะการที่คุณจะร้องเพลงให้ดีนั้นคุณจำเป็นจะต้องฝึกการหายใจให้ดีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับการร้องเพลงให้ดีขึ้นกว่าที่เคย เมื่อคุณฝึกการหายใจให้เป็นธรรมชาติได้ ก็จะทำให้คุณสามารถร้องเพลงเสียงสูงหรือโน้ตสูงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ก็ยังสามารถรักษาระดับพลังเสียงของคุณให้เสถียรยิ่งขึ้นได้อีกด้วย 

ขั้นตอนการฝึกหายใจ

• หน้าตรง หลังตรง หายใจเข้าทางปากหรือจมูก
• พยายามหายใจเข้าให้เงียบที่สุด ในระหว่างที่หายใจเข้าให้ดับท้องน้อยให้ป่องออกมา และหน้าอกจะต้องไม่ขยับขึ้น โดยสามารถเอามือวางบนท้องน้อยเพื่อเช็คความถูกต้องระหว่างหายใจออกได้
• พ่นลมหายใจผ่านออกทางปากโดยผ่านเสียง ‘ซือ’ ให้ยาวๆจนกว่าลงจะหมด แล้วค่อยๆหุบท้องน้อยระหว่างที่หายใจออก
• หากทำครบตามที่กล่าวมาถือเป็น 1 เซต แนะนำให้ทำประมาณ 5-10 เซ็ตทุกๆวัน 

2. ฝึกวอร์มเสียง

การฝึกวอร์มเสียงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถร้องเพลงได้ดีขึ้น และสามารถร้องเพลงได้ตรงเสียงมากขึ้น และยังช่วยให้เสียงของเรามีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็ยังช่วยยืดหยุ่นเส้นเสียงและลดอาการเส้นเสียงบาดเจ็บได้อีกด้วย แนะนำว่าเวลาฝึกวอร์มเสียงให้ฝึกอย่างช้าๆ และระวังให้มากเพื่อให้เส้นเสียงของเราคลายตัวและพร้อมสำหรับการร้องเพลง การวอร์มเสียงก่อนร้องเพลงจริงก็สามารถช่วยให้การร้องเพลงมีมาตรฐาน และมีเสียงที่เสถียรมากยิ่งขึ้น

3. จัดตำแหน่งและท่าทางขณะร้องเพลงให้ถูกต้อง

การจัดตำแหน่งและท่าทางขณะที่กำลังร้องเพลงให้ถูกต้อง ก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการร้องเพลงโดยรวมของเราให้ดีขึ้นได้ เพราะการที่นั่งหลังค่อมหรือนอนเอนตัวสำหรับท่าทางเหล่านี้ทำให้เราร้องเพลงได้ไม่เพราะ ลักษณะท่าทาเหล่านี้จะทำให้ลมภายในร่างกายนั้นไหลเวียนได้ไม่มีเท่าที่ควร การจัดตำแหน่งและท่าทางให้ร้องเพลงได้ดียิ่งขึ้น แนะนำว่าควรยืนหลังตรง ไหล่ทั้ง 2 ข้างควรจะอยู่ในแนมเดียวกัน และผ่อนคลาย ไม่ควรเกร็งจนเกินไป ท่าทางแบบนี้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมลมหายใจของคุณให้ดีขึ้นได้ และยงัช่วยให้เสียงของคุณดังและทรงพลังมากขึ้นอีกด้วย 

4. ฝึกร้องเพลงเป็นประจำ 

ฝึกร้องเพลง การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการร้องเพลงเช่นกัน การร้องเพลงเพราะก็ต้องหมั่นฝึกฝนเพื่อที่จะพัฒนาทักษะการร้องเพลงของคุณให้ดีและไพเราะขึ้น ซึ่งการฝึกฝนนั้นก็รวมไปถึง การหายใจ การร้องให้ตรงคีย์ และอื่นๆ การฝึกฝนเหล่านี้จะสามารถช่วยให้กล้ามเนื้อของคุณสามารถจดจำและสามารถปรับใช้เทคนิคต่างๆได้อย่างคล่องแคล่วเป็นอย่างดี 

5. ฝึกออกเสียงให้ชัด

ฝึกออกเสียงให้ชัด เวลาร้องเพลงการออกเสียงแต่ละคำให้ชัดจะช่วยให้ผู้ฟังสามารถเข้าใจเนื้อเพลงได้ดียิ่งขึ้น แนะนำว่าให้ฝึกออกเสียงร้องเน้นไปที่ความชัดเจนของพยัญชนะ สระ และคำควบกล้ำ โดยการฝึกออกเสียงให้ชัดนี้จะช่วยให้คุณสามารถร้องเพลงหรือสื่อสารบทเพลงออกไปได้อย่างแม่นยำ 

6. อัดเสียงร้องเพลงเพื่อฟังการร้องของตัวเอง

การอัดเสียงร้องเพลงของตัวเองและฟังนั้นก็ถือว่าเป้นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะการที่เราฟังเพลงที่เราร้องนั้นจะทำให้เรารู้ว่ามีท่อนไหนที่ร้องเพี้ยนไหม ร้องเสียงดังไป หรือร้องเสียงเบาไปในบางท่อนหรือไม่ เมื่อเราได้ยินเสียงร้องของตัวเองแล้วก็จะสามารถนำมาปรับปรุงกับการร้องของเราได้ให้ดีขึ้นกว่าที่เคย ซึ่งเราสามารถเลือกท่อนที่เรายังร้องได้ไม่ดีและนำไปฝึกร้องแยกได้เลย เราสามารถหาวิธีแก้ไขปัญหาสำหรับท่อนนั้นๆได้ และฝึกร้องให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน 

7. ร้องเพลงออกมาด้วยอารมณ์ และความรู้สึก

การร้องเพลงออกมาด้วยอารมณ์และความรู้สึก จะช่วยทำให้บทเพลงของคุณดูมีพลังและมีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด การร้องเพลงด้วยอารมณ์ยังจะช่วยดึงดูดให้ผู้ชมหรือผู้ฟังของคุณให้ตกอยู่ในภวังค์รวมกับว่าโดนสะกดด้วยบทเพลง เมื่อเป็นแบบนี้เสียงร้องเพลงและเนื้อร้อง รวมไปถึงทำนองเพลงของคุณก็จะสามารถเข้าถึงผู้ฟังได้ดียิ่งขึ้น